ลดน้ำหนักผิดวิธีชีวิตเปลี่ยน

การลดน้ำหนัก

            พูดถึงเรื่องการลดน้ำหนัก เชื่อว่า หลายคนคงไม่มีใครอยากมีรูปร่างอ้วน ท้วม หรืออวบระยะสุดท้ายแน่นอน แต่ว่าปัญหาคือ ไม่ว่าจะลดน้ำหนักด้วยวิธีการใด ก็ไม่เป็นผลสุดท้ายกลับมาอ้วนหนักกว่าเดิม นั่นเรียกว่าโยโย่เอฟเฟ็คค่ะ ที่ผ่านมาจนกระทั่งในปัจจุบันเรื่องการลดน้ำหนัก วิธีการลดน้ำหนักต่างๆ ก็ยังคงเป็นเรื่องเข้าใจผิดในหลายประเด็น จึงทำให้การลดน้ำหนักไม่เป็นผลสักที แถมสุขภาพย่ำแย่กว่าเดิมเสียอีก

            โดย วิธีการลดน้ำหนักหลักๆ สำคัญๆ ที่คนทั่วไป หรือเราๆ เองชอบใช้กันหารู้ไม่ว่าผิดทาง คือ

            1.) กินอาหารไม่ครบ 3 มื้อ เพราะเชื่อว่าการอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งโดยเฉพาะมื้อเย็น จะช่วยให้น้ำหนักตัวลดได้ นั่นเป็นความเชื่อที่ผิดมหันต์ค่ะ พูดถึงน้ำหนักตัวว่าลดก็ลดจริงในระยะสั้น แต่วิธีนี้จะเป็นการบั่นทอนหรือทำลายระบบการเผาผลาญให้พังลงๆ ทุกวัน จนในวันนึงเราจะกลับมาอ้วนอีก เพราะการอดมื้อเย็นนั่นเอง  เมื่อระบบเผาผลาญพังไป ต่อให้กินน้อยเท่าไหร่ก็อ้วนค่ะ

            2.) พยายามลดแป้ง งดไขมัน แต่ยังบริโภคน้ำตาลอยู่นั่นเอง โดยน้ำตาลที่ว่านี้ก็มาในรูปของเครื่องดื่ม ชา กาแฟ เย็น ๆ โดยเฉพาะสาวๆ ออฟฟิส ที่หลีกเลี่ยงเรื่องนี่ท่าทางจะยากสักหน่อย แต่หากตั้งใจจริงแล้วเราทำได้แน่นอนค่ะ หากเราพิจารณาและเห็นว่าในชา กาแฟ เย็นๆ หรือน้ำอัดลมต่างๆ ที่เราดื่ม มีปริมาณน้ำตาลมหาศาลขนาดไหน ดังนั้นแล้ว  สิ่งที่ควรลดไม่ใช่แป้งหรือไขมันเพียงอย่างเดียว แต่คือน้ำตาลเหล่านี้ต่างหาก คือประเด็น

            3.) เลือกทานอาหารไม่ถูกส่วน หรือไม่ถูกประเภท การทานอาหารที่มีรสจัด ในที่นี้หมายถึงมีรสเค็มก็ทำให้ร่างกายอุ้มน้ำไว้มาก สังเกตว่าจะรู้สึกว่าตัวบวม แต่การทานอาหารที่มีรสเค็มบ่อยๆ หรืออาหารที่มีโซเดียมเยอะมากเกินความต้องการของร่างกาย ยกตัวอย่างเช่น ประเภทยำ  ส้มตำ เป็นต้น ที่หลายคนเชื่อว่านั่นเป็นอาหารของคนไดเอท นั่นเป็นความเข้าใจผิดร้ายแรงเช่นกันค่ะ ทั้งสองอย่างโซเดียมล้ำไปมาก เป็นเหตุให้อ้วนได้เช่นกัน

            เป็นเช่นนี้แล้วควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมดังกล่าวข้างต้นเพื่อสุขภาพที่ดีและการลดน้ำหนักที่ได้ผลนะคะ และหากในวันนี้เราต้องการหันมาดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น เราก็สามารถทำได้โดยการเปลี่ยนนิสัยการรับประทานอาหารจากการเลือกทานอาหารประเภทหลัง  มาทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ลดปริมาณน้ำตาลที่ร่างกายได้รับในแต่ละวันจากอาหารแต่ละส่วนอย่างละเล็กน้อย  เช่น 

  • ทานก๋วยเตี๋ยวไม่ต้องปรุงเพิ่ม โดยเฉพาะน้ำตาล 
  • การดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำหวาน นอกจากจะลดปริมาณน้ำตาลที่จะได้รับในแต่ละวัน ได้แล้วยังดีต่อไตและระบบไหลเวียนในร่างกายอีกด้วย
  • หันมาทานอาหารทำเองมากขึ้น หลีกเลี่ยงอาหารขยะ ซึ่งจะมีโซเดียมเป็นส่วนใหญ่  น้ำมันจากการทอด  หรือกระบวนการปรุงต่างๆ ที่ไม่ค่อยรับผิดชอบต่อผู้บริโภคมากนัก

            ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน หรือหากจะให้ดี 5 วันต่อสัปดาห์ ค่ะ จึงจะเป็นการเผาผลาญและกระตุ้นระบบต่างๆ ของร่างกายให้รักษาสมดุล และเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบเผาผลาญและความแข็งแรงโดยรวมของร่างกายอีกด้วยค่ะ